พบกันอีกครั้งกับ คาเฟ่น่านั่ง บ้านตากะยาย แค่ได้ยินชื่อคาเฟ่ก็รู้สึกอบอุ่นในหัวใจกันแล้วค่ะ แต่ถ้าได้เดินทางมาสัมผัสของจริงคุณจะต้องรู้สึกประทับใจอย่างแน่นอน โดยคาเฟ่แห่งนี้จะมีรูปแบบร้านเป็นร้านเล็กๆ ขนาดกะทัดรัด บนพื้นกว้างขวาง เจ้าของสะสมประสบการณ์ทำขนมมานานกว่า 9 ปี ก่อนตัดสินใจมาเปิดคาเฟ่จากแรงผลักดันของคนในครอบครัว จึงมาเป็นบ้านตากะยายคาเฟ่อย่างในทุกวันนี้ ถึงแม้ว่าตัวร้านะเล็ก แต่รอบตัวร้านจะมีมุมต่างๆ ที่น่าสนใจ โดยเฉพาะโรงเรือนเพาะพันธุ์ต้นกระบอกเพชร ซึ่งเป็นงานอดิเรกของเจ้าของร้าน ภายในมีต้นกระบองเพชรหลากหลายสายพันธุ์ ใครสนใจสามารถเดินเข้าไปชมกันได้ แต่ถ้าอยากซื้อติดไม้ติดมือกลับก็อย่าลืมถามไถ่กันก่อน เพราะดูไปแล้วแต่ละต้นเติบโตมาด้วยความเอาใจใส่เป็นพิเศษ
บรรยากาศภายในร้าน บ้านตากะยาย

ตัวร้านเน้นใช้โทนสีขาว สดใส สะอาดตา ภายในร้านแบ่งเป็นมุมเล็กๆ หลากหลายมุม แต่ต้องบอกก่อนว่าแต่ละมุมน่ารัก และให้ความรู้สึกอบอุ่นสุดๆ บริเวณด้านนอกจัดเป็นส่วนหย่อมที่ช่วยให้ภายในร้านดูร่มรื่น เป็นระเบียบเรียบร้อย และชวนมอง นอกจากนี้บริเวณหน้าร้านก่อนเดินเข้าประตู จะมีต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ หรือซากุระเมืองไทย ที่ถ้าคุณมาช่วงเวลาออกดอกสีสันของดอกชมพูพันธุ์ตัดกับสีของร้าน บวกกับการตกแต่งร้าน ยิ่งช่วยเสริมบรรยากาศรอบบริเวณให้ดูสวยงามมากยิ่งขึ้น ไม่เพียงเท่านั้นนะคะ ผนังด้านหนึ่งที่อยู่ด้านในยังมีการเพ้นท์ลายเป็นรูปต้นชมพูพันธุ์ทิพย์กันอีกด้วย มองเผินๆ เหมือนภาพ 3 มิติ ยิ่งตัดกับโทนสีขาวด้วยแล้ว ทำให้ร้านดูมีสันสันสดใสและมีชีวิตชีวามากขึ้นไปกว่าเดิม สำหรับเฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่จะเน้นเป็นวัสดุไม้ ซึ่งก็เป็นอะไรที่เข้ากันได้ดีอย่างลงตัว ส่วนหลังคาด้านบนออกแบบให้เป็นรูปทรงหน้าจั่ว เป็นลักษณะหลังคาสูง ทำให้ภายในดูโปร่ง โล่ง ผนังด้านข้างยังกรุเป็นกระจกใสบานใหญ่ ยิ่งทำให้ตัวร้านดูกว้างขวางมากยิ่งขึ้นอีกด้วย ส่วนมุมนั่งจะมีให้เลือกได้สองโซน ทั้งด้านในและบริเวณด้านนอก

บ้านตากะยาย ยังมีเมนูอาหาร เมนูเด็ด ให้เลือกรับประทานได้หลากหลาย ทั้งอาหารจานหลัก เค้ก เบเกอรี่ และเมนูเครื่องดื่ม สำหรับที่อยากแนะนำก็คือเมนูขนมต่างๆ นั่นเองค่ะ เพราะอย่างที่เกริ่นไปแล้วตั้งแต่แรกว่าเจ้าของร้านมีประสบการณ์ในการทำขนมมาเป็นเวลานาน เมนูขนมของที่นี่จึงมีรสชาติอร่อย และน่ารับประทาน แต่เมนูอื่นๆ ก็มีรสชาติดีเช่นกันนะคะ ซึ่งก็ต้องบอกก่อนว่าร้านจะเปิดให้บริการเฉพาะในวันเสาร์, วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เท่านั้น โดยจะเปิดตั้งแต่เวลา 10.00 – 18.00 น. สำหรับท่านใดที่สนใจอยากเดินทางมาที่นี่และต้องการทราบพิกัดของทางร้าน ก็คลิกตามลิ้งค์กันได้เลย >> https://goo.gl/maps/DmxBAQGWTVh9qHZU6
ตามไปเสาะหาที่เที่ยวกันต่อได้ที่ หลงไปไหน